นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection)

บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยของบริษัท (รวมเรียกว่า “บริษัทฯ”) เคารพความเป็นส่วนตัว และตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของทุกท่าน บริษัทฯจึงมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และมาตรการการดำเนินงานที่รัดกุม เพื่อป้องกันการเข้าถึง เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมิได้รับอนุญาต

 

“บริษัทฯ”

หมายถึง บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยของบริษัท

“บริษัทย่อย”

หมายถึง บริษัทย่อยของบริษัท และบริษัทที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดตามที่ระบุไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ภายใต้หัวข้อ “บริษัทในเครือ”

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ลูกค้า ผู้ถือหุ้น คู่ค้า ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนได้เสียกับบริษัทฯ

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อมแต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว”

หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล ซึ่งมีความละเอียดอ่อน และก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลซึ่งรวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ เชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบให้คำปรึกษา ดูแล และติดตามการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฯ รวมทั้งประสานงานและร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในประเด็นต่างๆของบริษัทฯ อันเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และหน้าที่อื่นๆ ซึ่งอาจถูกกำหนดว่าจำเป็นจะต้องดำเนินการ โดยพระราชบัญญัติฯ

“คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติฯ โดยมีหน้าที่และ อำนาจกำกับดูแล ออกหลักเกณฑ์ มาตรการ หรือข้อปฏิบัติอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

 

เนื่องจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จึงได้กำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) ฉบับนี้ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พระราชบัญญัติฯ”) เพื่อกำหนดกระบวนการของบริษัทฯในเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ตามที่กำหนดไว้ด้านล่าง)

  1. ขอบเขตและวัตถุประสงค์

1.1 นโยบายนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯเป็นไปตามพระราชบัญญัติฯ รวมถึงกฎหมายและ กฎเกณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเป็นไปตามคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด อันเกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1.2 นโยบายฉบับนี้มีผลบังคับใช้กับผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนได้เสียที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการอยู่

1.3 นโยบายฉบับนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อบังคับการทำงานของบริษัทฯ ซึ่งพนักงานของบริษัทต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

  1. นิยาม
  2. การเก็บรวบรวม/ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Information Collection request / Personal Data)
    บริษัทฯขอแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
    • ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน (Personal Data requested by company)
      ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม บริษัทฯจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯได้รับโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันประกอบไปด้วย
      ข้อมูลแสดงตัวตน (Identity Data)
      หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด เพศ รูปถ่าย เลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขใบขับขี่ หมายเลขหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ สถานภาพการสมรส และข้อมูลบุคคลในครอบครัว เป็นต้น
      ข้อมูลติดต่อ (Contract Data)
      เช่น ที่อยู่ อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลการติดต่อทางโซเชียลมีเดีย และรายละเอียดบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
       ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data)
       เช่น ข้อมูลเชื้อชาติ ความเชื่อ ศาสนา ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลชีวมิติ (Biometric Data) ผลการตรวจสุขภาพ ความพิการ เป็นต้น
       ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน (Financial and Transaction Data)
       หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขบัตรเดบิต ข้อมูลรายได้ต่อเดือน ข้อมูลการชำระเงิน เป็นต้น
       ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน (Technical and Usage Data)
       ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลข IP Address ข้อมูลการเข้าสู่ระบบข้อมูลการค้นหา (Website Browsing) จากการใช้ข้อมูล Cookie ID ประเภทอุปกรณ์การตั้งค่า แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา
      ข้อมูลสิ่งที่ท่านสนใจ (Profile Data)
      ชื่อผู้ใช้ในการสมัครงาน ข้อมูลความสนใจ ความชอบ งบประมาณ เหตุผลในการเลือกซื้อสินค้า และข้อมูลความเห็นจากการตอบแบบ  สำรวจ
      ข้อมูลการตลาดและการสื่อสาร (Marketing and Communication Data)
      การตั้งค่าของท่านในการรับข้อมูลการตลาดจากบริษัทฯ และบุคคลที่สาม (Third Party) รวมถึงข้อมูลการติดต่อกับบริษัทฯ เช่น เทปบันทึก กรณีที่ท่านติดต่อเข้ามาทาง call center หรือผ่านทางช่องทาง social media อื่นๆ เป็นต้น
  • การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Use of Personal Data)
    ข้อมูลที่ท่านจำเป็นต้องให้ไว้กับบริษัทฯ และบริษัทฯสามารถเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ต้องขอความยินยอม ได้แก่
    • ข้อมูลที่ท่านให้ไว้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือ สัญญา หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลเพื่อเข้าทำสัญญา หรือข้อมูลอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวเหล่านี้กับบริษัทฯ บริษัทฯจะไม่สามารถดำเนินการตามที่ท่านประสงค์ หรือตามที่บริษัทฯได้แจ้งไว้ต่อท่าน หรือดำเนินการตามกฎหมายอื่นๆ
    • การให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น การเก็บภาพของท่านในการจัดกิจกรรมต่างๆ การบันทึกภาพของท่านผ่านกล้อง CCTV เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการรวบรวม ใช้ และ เปิดเผย ข้อมูลโดยรวม เช่น ข้อมูลเชิงสถิติ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ เพื่อคำนวณอัตราของผู้ที่เข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือทำข้อมูลเชิงสถิติต่างๆ และหากข้อมูลสามารถกลับมาระบุตัวตนได้ เราจะถือว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจะถูกใช้ตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้

  1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Source)
    บริษัทฯอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งต่อไปนี้
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทย่อยของบริษัทฯ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบุคคลที่สาม เช่น ตัวแทน ผู้ให้บริการ และ/หรือ คู่ค้าที่ประมวลผลข้อมูล
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่รวบรวมจากการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น ชื่อของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต และ IP Address วันที่และเวลาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่เข้าเยี่ยมชม ที่อยู่ของเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับที่อยู่ของบริษัทฯ
  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Disclosure)
     บริษัทฯจะทำการประมวลผลข้อมูลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด ดังต่อไปนี้
     เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน (Consent)
    บริษัทฯจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่แจ้ง และได้รับความยินยอมจากท่านอย่างชัดแจ้ง
    เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
    บริษัทฯจะเก็บรวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อจำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา เช่น การให้บริการแก่ท่าน การปฏิบัติตามกระบวนการภายในของเรา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามสัญญา
    เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
    บริษัทฯมีการประมวลผลข้อมูล โดยมีเหตุผลเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การป้องกันและตรวจจับความผิดปกติของธุรกรรมที่นำไปสู่กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย การรายงานข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด
    เพื่อประโยชน์สาธารณะ (Public Interest)
    ในบางกรณี บริษัทฯอาจมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐให้ดำเนินการ
     เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
  • บริษัทฯมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อการบริหารจัดการภายใน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลในกลุ่มธุรกิจเดียวกันเพื่อยกระดับมาตรฐานในการทำงานของบริษัทฯ ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯรวมถึงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้
  • เพื่อป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยง ที่อาจเกิดการกระทำผิดกฎหมาย รวมถึงการบันทึกภาพในพื้นที่บริเวณโครงการหรือพื้นที่อื่นๆ เพื่อการรักษาความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยภายในบริเวณดังกล่าว
  • เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การเสนอสิทธิประโยชน์โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการตลาด
  1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Objective of Data Disclosure)
    • เพื่อทำรายการตามที่ท่านประสงค์ โดยบริษัทฯจะเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และคำร้องขอหรือความคิดเห็นที่ท่านได้ให้ไว้เมื่อท่านลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไชต์ของบริษัทฯ หรือผ่านทางช่องทางอื่นๆ อาทิ กรอกเอกสารแบบสอบถามเมื่อท่านแวะชมโครงการ เมื่อท่านติดต่อมายังบริษัทฯและแจ้งความประสงค์ให้ติดต่อกลับเพื่อให้ข้อมูลโครงการ หรือเพื่อดำเนินการตามอื่นๆ ตามที่ท่านร้องขอ
    • เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการ
    • เพื่อดำเนินการตามสัญญากับคู่สัญญาที่บริษัทฯจัดจ้างหรือใช้บริการ
    • เพื่อดำเนินการตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ
    • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ เพื่อประโยชน์อื่นใดที่ท่านได้ให้ความยินยอม

ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้บริการภายนอก (Supplier/Outsource/Service Provider) บริษัทฯจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญา เพื่อทำการจัดซื้อจัดจ้าง และตรวจสอบคุณภาพของสินค้าหรือบริการ หรือเพื่อประเมินประสิทธิภาพของผู้ให้บริการ อย่างไรก็ตามการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะกระทำภายใต้เหตุผลที่กฎหมายรองรับ โดยอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนฐานทางกฎหมายที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

ข้อมูลส่วนบุคคลของ พนักงาน ที่ปรึกษา ผู้สมัครงาน และ/หรือ พนักงานชั่วคราว อาจถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้ เพื่อสัญญาจ้างงาน ประกันสังคม ภาษี ประกันภัย ประกันชีวิต – ประกันสุขภาพ การเข้าถึงสิทธิสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ประวัติสุขภาพ การประเมินผลงาน การจ่ายเงินเดือนค่าจ้าง การตรวจสอบประวัติการศึกษา ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (ในบางตำแหน่งงาน) ตรวจสอบสถานะทางการเงิน (ในบางตำแหน่งงาน) และ/หรือ ประวัติส่วนบุคคลสำหรับการรับสมัครงาน

  1. การตลาด (Marketing)การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในด้านการตลาดและการโฆษณา เรามีกลไกการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
    เพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการขาย
    บริษัทฯอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน (Technical and Usage Data) และข้อมูลความสนใจ(Profile  Data) ของท่าน เพื่อวิเคราะห์และนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เหมาะสมให้กับท่าน รวมถึงเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสาร นำเสนอสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นต่างๆ ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับข้อมูลข่าวสารด้านการตลาดได้ผ่านช่องทางต่างๆ โปรดดูรายละเอียดในหัวข้อ การยกเลิกการรับข้อมูลการตลาด (Opting Out) ด้านล่าง
    การยกเลิกการรับข้อมูลการตลาด (Opting Out)
    ท่านสามารถปฏิเสธไม่รับข่าวสารจากเราได้ โดยส่งอีเมลมาที่ info@akscorporation.co.th และ Call center 1636 ในกรณีที่ท่านเลือกที่จะปฏิเสธไม่รับข่าวสารทางการตลาด การยกเลิก/ปฏิเสธนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการแก่ท่าน หรือธุรกรรมอื่นใดที่ท่านมีกับบริษัทฯ
  1. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้ (Cookie)
    บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลบางประการจากท่าน เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราโดยอัตโนมัติผ่านการใช้คุกกี้ และใช้เพื่อนำมาวิเคราะห์กระแสความนิยมการบริหารจัดการเว็บไซต์ การติดตามการเคลื่อนไหวการใช้เว็บไซต์ของผู้ใช้บริการ หรือเพื่อจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ คุกกี้คือข้อมูลขนาดเล็ก หรือข้อความที่สร้างให้กับคอมพิวเตอร์ของท่านเมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งคุกกี้บางประเภทเป็นคุกกี้ที่จำเป็นอย่างยิ่ง มิฉะนั้นหน้าเว็บไซต์อาจจะไม่สามารถใช้การได้อย่างเหมาะสม ส่วนคุกกี้ประเกทอื่นๆ นั้นช่วยให้เราสามารถปรับปรุงประสบการณ์การเรียกดูเว็บไซต์ของท่าน ปรับแต่งเนื้อหาตามความต้องการของท่าน และทำให้ท่านมีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์ได้สะดวกมากขึ้น เนื่องจากคุกกี้จะจดจำชื่อผู้ใช้ด้วยวิธีการที่ปลอดภัย รวมทั้งจดจำการตั้งค่าภาษาของท่านด้วยอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ ส่วนใหญ่จะให้คุณตัดสินใจว่าจะยอมรับคุกกี้หรือไม่อย่างไรก็ตามการปฏิเสธลบ หรือบล็อกคุกกี้อาจส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณได้ และหากไม่มีคุกกี้ท่านอาจใช้คุณลักษณะหรือส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ทั้งหมดหรือบางส่วนได้จำกัด นอกจากนี้บุคคลภายนอกบางรายอาจสร้างคุกกี้ผ่านเว็บไชต์ของเราเพื่อมอบโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านจากกิจกรรมการเรียกดูเว็บไซต์ บุคคลภายนอกเหล่านี้อาจเก็บรวบรวมประวัดิการเรียกดูเว็บไซต์ของท่านหรือข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้ทราบว่าท่านเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้อย่างไรและเพื่อให้ทราบว่าท่านเข้าชมหน้าเว็บไซต์ใดอีกบ้างหลังจากที่ออกจากเว็บไซต์ของเราแล้ว ซึ่งข้อมูลที่รวบรวมด้วยวิธีการอัตโนมัติเช่นนี้อาจเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้บนเว็บไซต์ของเราก่อนหน้านี้
  2. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Disclosure)
    บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้ด้านบน อย่างไรก็ดี เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ และ/หรือ การให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก่บริษัทย่อยผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่นที่กำหนด โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ บุคคลดังกล่าว บริษัทฯจะดำเนินการให้บุคคลดังกล่าวเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทฯได้กำหนดไว้ บริษัทฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ และ/หรือ หน่วยงานกำกับดูแล บริษัทฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณี ที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูล โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย
  3. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Security)
    บริษัทฯจะกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมายหลักเกณฑ์ ระเบียบ และแนวปฏิบัติต้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พนักงานของบริษัทฯ และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ จะสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้มีการกำหนดให้พนักงานของบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามนโยบายฯ และแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้เพื่อให้บริษัทฯสามารถปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฯ โดยสมบูรณ์
  4. แนวทางในการดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Protection of personal data)
    บริษัทฯจะกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์ ระเบียบ และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พนักงานของบริษัทฯ และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯจะสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้มีการกำหนดให้พนักงานของบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามนโยบายฯ และแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฯ โดยสมบูรณ์
  5. มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ มีดังต่อไปนี้

     

     

    • กำหนดสิทธิในการเข้าถึง ใช้เปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กำหนดเท่านั้นรวมถึงต้องมีการยืนยันตัวบุคคลสำหรับผู้ที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
    • เอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานถูกห้ามไม่ให้นำกลับมาใช้ช้ำ เอกสารดังกล่าวจะถูกทำลายเมื่อพนักงานพ้นสภาพการเป็นพนักงานไปแล้ว 2 ปี หรือเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายอนุญาตไว้เป็นการเฉพาะ ยกเว้นกรณีที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทางกฎหมายอื่น ๆ
    • กรณีที่เกิดการฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ หรือข้อมูลส่วนบุคคลนั้นรั่วไหลสู่สาธารณะ บริษัทฯจะแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทราบโดยเร็ว บริษัทฯจะแจ้งหน่วยงานราชการตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติฯ และบริษัทฯจะรับผิดชอบในการเยียวยาความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เมื่อได้ตรวจสอบและพิสูจน์แล้วว่าเป็นความผิดพลาดของบริษัทฯ

บริษัทฯขอสงวนสิทธิในการรับผิดชอบความเสียหายใดๆ อันเกิดจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำการเปิดเผยข้อมูลของตนแก่บุคคลอื่นหรือบุคคลภายนอกโดยสมัครใจ และ/หรือ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอีกทั้งการรับส่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตยังคงมีข้อจำกัดในการดูแลรักษาความปลอดภัย แม้บริษัทฯจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม บริษัทฯจึงไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลที่ท่านเปิดเผยผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ดังนั้น บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความสูญเสียที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อม จากการเข้าถึงข้อมูล โดยมิได้รับอนุญาต (Unauthorized Access) ที่ท่านให้ไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทเราเป็นผู้ละเลย

 

  1. ระยะเวลาจัดเก็บ และสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล (Data Retention)
    บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตราบเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์และความจำเป็นในการรวบรวมและครอบครองข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาการครอบครองข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายที่บังคับใช้สำหรับแต่ละเรื่อง บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งหลังจากที่สัญญาหมดอายุ โดยที่ระยะเวลาดังกล่าวเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดโดยกฎหมายเกี่ยวข้อง บริษัทฯ จะจัดให้มีการจัดเก็บ และ/หรือ ระบบที่เหมาะสมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ภายใต้สถานการณ์เฉพาะ เช่น กรณีอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ฯลฯ บริษัทฯอาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกินระยะเวลาที่กำหนด ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจะระบุอยู่ในบันทึกกิจกรรมการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ นอกจากนี้บริษัทฯ จะกำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และบุคคลที่สาม

(รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ซึ่งเป็นผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทฯ กำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล

  1. สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights)
    บริษัทฯจะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเกินกว่าระยะเวลาการจัดเก็บที่กำหนดในข้อ 12 ข้างต้น โดยบริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาที่ระบุไว้สำหรับข้อมูลแต่ละประเภท เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอีกต่อไป หรือตามคำขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแผนกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องภายในบริษัทฯ จะมีหน้าที่ตรวจสอบและแยกข้อมูลส่วนบุคคลที่สิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาและดำเนินการทำลายเอกสารตามรูปแบบและวิธีการดังต่อไปนี้
    • หากข้อมูลส่วนบุคคลถูกจัดเก็บไว้ในฉบับพิมพ์ การทำลายเอกสาร ที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการ โดยการใช้เครื่องทำลายกระดาษ
    • หากข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บไว้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แผนกที่ควบคุมเอกสารดังกล่าวควรติดต่อแผนกไอทีเพื่อทำลายเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง

  1. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องขอให้ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
    สิทธิในการถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
     เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทฯจะหยุดการประมวลผลข้อมูลของท่านโดยเร็วที่สุดรวมถึงอาจทำการลบข้อมูลของท่านออก เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทฯ ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และได้รับการทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลที่อยู่ภายใต้การครอบครองของบริษัทฯ หรือขอให้เปิดเผยการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้มาโดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูล
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Data Portability)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลที่เกี่ยวกับท่าน รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือขอรับข้อมูลที่เราส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่มีเหตุผลอื่นใดที่บริษัทฯไม่สามารถดำเนินการได้
สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีดังนี้

  • เมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่มีความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป
  • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะทำการประมวลผลได้
  • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำการคัดค้านการประมวลผล
  • มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมาย
  • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล คัดค้านการประมวลผลข้อมูล (นอกเหนือจากที่เกี่ยวข้องกับการคัดค้านการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง) และเราไม่มีเหตุแห่งการอ้างการประมวลผลโดยประโยชน์อันชอบธรรม

 สิทธิในการห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • เมื่อไม่มีความจำเป็นในการประมวลผลอีกต่อไป แต่การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลยังคงมีความจำเป็นเพื่อการใช้สิทธิ

เรียกร้องทางกฎหมาย

  • เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมาย แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต้องการห้ามมิให้มีการประมวล

ผลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตน

  • เมื่ออยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ
  • เมื่ออยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า

สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล ในกรณี ดังนี้

  • กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
  • กรณีที่เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์หรือสถิติเว้นแต่การจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  • กรณีที่เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ด้วยเหตุจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ เหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่บริษัทฯได้แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า

สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to transfer personal data)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจากผู้ควบคุมข้อมูล ผู้ควบคุมข้อมูลต้องดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านได้หรือใช้งานทั่วไปโดยใช้เครื่องมือ หรืออุปกรณ์อัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยด้วยวิธีอัตโนมัติได้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังมีสิทธิร้องขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่งหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หากสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือร้องขอโดยตรงเพื่อให้ได้ข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่งหรือถ่ายโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น เว้นแต่จะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากเหตุผลทางเทคนิค
สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในกรณีที่บริษัท ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัท กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  1. การบังคับใช้ (Enforcement)
    • นโยบายฉบับนี้มีผลบังคับใช้กับผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนได้เสียที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการอยู่
    • นโยบายฉบับนี้มีผลบังคับใช้กับทุกการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลในทุกรูปแบบ
    • ทุกแผนกในบริษัทฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความระมัดระวังสูงสุด และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ อย่างเคร่งครัดเมื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้
  • ข้อมูลส่วนบุคคลถือเป็นความลับสูงสุด การเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในทางที่ผิด โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการละเมิดระเบียบของบริษัทฯ และ/หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาจมีการดำเนินการทางวินัยกับผู้ฝ่าฝืน ไม่ว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ก็ตาม
  1. การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (Infringement of Personal Information)
    ในกรณีที่บุคคลใดพบว่ามีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล หรือการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทฯ ที่ขัดแย้งหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ พระราชบัญญัติฯ และ/หรือระเบียบ และ/หรือข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องภายใต้นโยบายฉบับนี้ โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ผ่านช่องทางที่ระบุไว้ในข้อ 18 ของนโยบายฉบับนี้
    • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ จะประเมินการละเมิดและดำเนินการตามความจำเป็นตามพระราชบัญญัติฯ และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
  • ในการบริหารความเสี่ยงขององค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกพิจารณาร่วมกับการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม และการตรวจสอบการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลโดยหน่วยงานตรวจสอบภายใน
  • ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์รั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะแจ้งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทราบตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติฯ
  1. การทบทวนนโยบาย (Policy Review)
    บริษัทฯอาจปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายนี้ โดยมิได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้า ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกำหนดพระราชกฤษฎีกา รวมถึงออกระเบียบและประกาศ ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ ซึ่งจะออกมาบังคับใช้ในอนาคต
  1. ช่องทางการติดต่อ (Contact)

            รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล
            ชื่อ: บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
            สถานที่ติดต่อ: บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
            เลขที่ 102 ถนนริมคลองบางกะปิ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10130

            โทรศัพท์: 02-033-5555
            แฟกซ์: 02-033-5566
            สายด่วน: 1636
            อีเมล: info@akscorporation.co.th
            เว็บไซต์: www.akscorporation.co.th

            ชื่อ: อควาเรียส โฮเทล คอลเลคชั่น
            สถานที่ติดต่อ: บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
            เลขที่ 102 ถนนริมคลองบางกะปิ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
            โทรศัพท์: 02-033-5555
            อีเมล: info@aquariushotelcollection.com